ทำอย่างไรให้ใช้ระบบวัดพลังงานไฟฟ้าได้คุ้มค่ากับการลงทุน

25/05/2020

ทำอย่างไรให้ใช้ระบบวัดพลังงานไฟฟ้าได้คุ้มค่ากับการลงทุน

          ระบบวัดพลังงานไฟฟ้าเป็นเครื่องมือที่สำคัญอย่างหนึ่งในการทำโครงการประหยัดพลังงานไฟฟ้า เพราะระบบวัดพลังงานไฟฟ้าจะช่วยให้เราเห็นพฤติกรรมการใช้ไฟฟ้าในองค์กรของเรา เห็นสิ่งผิดปกติของการใช้ไฟฟ้าที่เกิดขึ้นที่ไม่เคยทราบมาก่อน เห็นปัญหาของการใช้ไฟฟ้าที่เกิดขึ้นในบางช่วงเวลา ซึ่งถ้าไม่มีระบบวัดพลังงานไฟฟ้าแล้วเราอาจจะไม่พบเห็นปัญหาดังกล่าวเลย และทำให้เกิดการสูญเสียพลังงานไฟฟ้าไปโดยเปล่าประโยชน์ นอกจากนี้ระบบวัดพลังงานไฟฟ้ายังช่วยในงานวิเคราะห์การแก้ไขปัญหาเพื่อประเมินความคุ้มค่าในการลงทุนแก้ไขและช่วยในการตรวจสอบผลหลังจากดำเนินการแก้ไขแล้ว ทำให้สามารถใช้พลังงานไฟฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ

          การจะใช้ระบบวัดพลังงานไฟฟ้าให้คุ้มค่ากับการลงทุน จะต้องเริ่มจากการวางแผนงานก่อนโดยมีขั้นตอนตามมาตรฐาน P D C A ดังนี้

1.วางแผนติดตั้งระบบวัดพลังงานไฟฟ้า

          โดยสำรวจเครื่องจักรและ/หรือโหลดทางไฟฟ้าทั้งหมดที่มีในองค์กร จัดแบ่งการติดตั้งมิเตอร์วัดพลังงานไฟฟ้า โดยกำหนดให้ติดตั้งแบบจุดต่อจุดสำหรับโหลด เครื่องจักรหรือสายการผลิตขนาดใหญ่ ส่วนโหลดที่มีขนาดไม่ใหญ่ให้จัดกลุ่มตามพื้นที่แล้วใช้มิเตอร์วัดรวมกันได้

2.จัดหา-ติดตั้งอุปกรณ์วัด และวิเคราะห์พลังงาน

          เพาเวอร์มิเตอร์เป็นอุปกรณ์ที่มีความสำคัญมากในระบบวัดพลังงานไฟฟ้า เพราะเป็นเครื่องมือที่ใช้ในการวัดค่าพลังงานไฟฟ้าจึงจำเป็นต้องเลือกเครื่องที่เชื่อถือได้ มีค่าความแม่นยำในการวัดที่ดี และที่สำคัญต้องมีความทนทาน เพราะมันจะต้องวัดการใช้พลังไฟฟ้าอยู่ตลอดเวลาแบบไม่มีวันหยุด

             ที่แสงชัยมิเตอร์เรามีเพาเวอร์มิเตอร์ให้เลือกใช้หลากหลายตามความสามารถในการวัดและราคา เพาเวอร์มิเตอร์ RICHTMASS รุ่น RP-3440i เป็นเพาเวอร์มิเตอร์รุ่นใหม่ที่เหมาะกับการลงทุนในทุกๆ กลุ่ม โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่กำลังมองหาเพาเวอร์มิเตอร์ที่มีเทคโนโลยีที่ทันสมัยโดยใช้จอ LCD แบบสีระบบสัมผัส ราคาสมเหตุสมผล แต่ได้ประสิทธิภาพการทำงานที่สูง เพาเวอร์มิเตอร์รุ่น RP-3440i ใช้ระบบจอสัมผัสในการตั้งค่าและเลือกดูค่า หน้าจอ LCD แบบ Matrix ความละเอียด 320x240 Pixels แสดงภาพสัญลักษณ์และข้อความชัดเจน ทำให้ทำความเข้าใจและใช้งานได้ง่ายมาก สามารถต่อร่วมกับตัวแปลงกระแส (Current transformer) แบบมาตรฐานทั่วไปที่มีย่านอยู่ในช่วง 5A ถึง 9500 A และมีค่ากระแสทุติยภูมิอยู่ที่ 5 A หรือ 1 A ก็สามารถที่จะนำมาต่อร่วมและใช้งานได้ทันที

3. เก็บผลการวัดจากโปรแกรม

          การที่เราจะวิเคราะห์การใช้พลังงานไฟฟ้าได้นั้น จำเป็นจะต้องมีข้อมูลจากการวัดการใช้พลังงานไฟฟ้าที่เกิดขึ้นตลอดระยะเวลา 24 ชม.และทุกๆวันที่เราใช้พลังงานไฟฟ้า จึงเป็นไปไม่ได้ที่เราจะทำการจดบันทึกค่าด้วยตัวเราเอง ระบบวัดพลังงานไฟฟ้าจึงจำเป็นต้องมีระบบบันทึกค่าการวัด โดยวิธีนึงในการบันทึกค่าที่นิยมใช้คือการใช้คอมพิวเตอร์ช่วยในการบันทึกค่า โดยที่คอมพิวเตอร์จะติดตั้งโปรแกรมวัดวิเคราะห์และบันทึกการใช้พลังงานไฟฟ้า ด้วยวิธีนี้เราจะปล่อยให้ระบบทำการวัดและบันทึกค่าการใช้พลังงานไฟฟ้าไปเรื่อยๆตลอดเวลา และเมื่อได้ข้อมูลเพียงพอ เราก็จะสามารถนำข้อมูลมาวิเคราะห์การใช้พลังงานไฟฟ้าได้ โปรแกรมที่ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยในการวัด วิเคราะห์และเก็บค่าพลังงานไฟฟ้าที่ได้รับความนิยมมากโปรแกรมหนึ่งคือ RICHTMASS PRO เนื่องจากเป็นโปรแกรมที่มีความสามารถหลากหลาย รองรับการวัดและบันทึกค่าจากเพาเวอร์มิเตอร์ได้ไม่จำกัดจำนวนและรองรับการใช้งานร่วมกับเพาเวอร์มิเตอร์ได้หลากหลายยี่ห้อ

      โปรแกรม Richtmass Pro นอกจากจะเป็นตัวช่วยในการวิเคราะห์การใช้พลังงานไฟฟ้าแล้ว ยังสามารถดึงข้อมูลจากโปรแกรมมาทำรายงานสำหรับการวิเคราะห์และวางแผนการใช้ไฟฟ้าได้ รวมไปถึง ฟังก์ชันการสร้างบิลค่าไฟฟ้า ที่สามารถทำให้ผู้ใช้งานรู้ถึงปริมาณเม็ดเงินที่ต้องจ่ายค่าไฟฟ้าทั้งการคิดค่าไฟฟ้าแบบปกติ TOD หรือ TOU ได้ ทำให้การจัดเก็บข้อมูลการใช้ไฟฟ้าของเรามีความสะดวกและแม่นยำยิ่งขึ้น อีกทั้งยังประหยัดเวลาในการจัดทำข้อมูลด้านพลังงานไฟฟ้าเพิ่มมากขึ้น

 

 

4. วิเคราะห์ผลการวัด

     เมื่อทำการติดตั้งเพาเวอร์มิเตอร์และเก็บบันทึกข้อมูลพฤติกรรมการใช้ไฟฟ้าแล้ว สิ่งที่ต้องทำต่อมาคือ การวิเคราะห์และวางแผนการใช้ไฟฟ้าในโรงงานเพื่อให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยวิเคราะห์จากข้อมูลที่เก็บบันทึกได้จากโปรแกรม Richtmass Pro นั่นเอง เพราะการที่ติดตั้งเพาเวอร์มิเตอร์เพียงอย่างเดียวไม่สามารถทำให้ประหยัดพลังงานไฟฟ้าได้ แต่การติดตั้งเพาเวอร์มิเตอร์จะทำให้เรารู้พฤติกรรมการใช้ไฟฟ้าของเครื่องจักรและโหลดในโรงงานได้ง่ายขึ้น รู้ว่าเครื่องจักรตัวไหนที่ทำให้เกิดการสิ้นเปลืองไฟฟ้า หรือการเปิดเครื่องจักรทิ้งไว้โดยไม่มีการใช้งานนั้นเป็นตัวการที่ทำให้เสียค่าไฟฟ้าเพิ่มขึ้น การวิเคราะห์ผลสามารถทำได้ง่ายเมื่อผลข้อมูลการวัดถูกแสดงในรูปของกร๊าฟประเภทต่างๆ โปรแกรมวิเคราะห์การใช้พลังงานไฟฟ้า Richtmass Pro สามารถนำข้อมูลที่วัดและบันทึกได้มาแสดงในรูปของกร๊าฟแบบต่างๆที่จะช่วยให้สามารถวิเคราะห์พฤติกรรมการใช้พลังงานไฟฟ้าที่เกิดขึ้นและมองเห็นความผิดปกติของการใช้พลังงานไฟฟ้าที่เกิดขึ้นได้โดยง่าย สิ่งสำคัญอย่างนึงของผู้วิเคราะห์ผลคือผู้วิเคราะห์จำเป็นจะต้องรู้และเข้าใจโครงสร้างของระบบไฟฟ้าในองค์กรนั้นเพื่อที่จะสามารถสังเกตเห็นและรับรู้ได้ถึงความปกติและความผิดปกติที่เกิดขึ้น

5.วางแผนแก้ไข ปรับปรุง เปลี่ยนแปลง การใช้ไฟฟ้า

  • แก้ไขจุดที่มีการสูญเสียไฟฟ้า โดยเปล่าประโยชน์

  • ปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้ไฟฟ้า เช่น ปรับปรุงเครื่องจักรให้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น
    ปรับเปลี่ยนโหลดไฟฟ้าที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น

  • ปรับเวลาการทำงานของโหลดบางชนิดที่ไม่จำเป็นต้องทำงานในเวลากลางวัน
    หรือในเวลาที่โหลดไฟฟ้าทำงานพร้อมๆกันเป็นจำนวนมาก เพื่อลดค่า Demand peak ลง

  • กำหนดมาตรการเพื่อให้พนักงานปฏิบัติเพื่อการลดการใช้พลังงานไฟฟ้า
    เช่นการปิดไฟแสงสว่างทุกครั้งที่รุกออกจากโต๊ะทำงานของตน

  • ควบคุมเวลาในการทำงานของโหลดไฟฟ้าบางชนิดให้ทำงานและหยุดทำงานในช่วงเวลาที่เหมาะสม

6. ดำเนินการและวัดผล

    การดำเนินกิจกรรมใดๆในการปรับปรุง เปลี่ยนแปลงการใช้ไฟฟ้า เราจะสามารถตรวจสอบผลจากการปฏิบัติว่าให้ผลเป็นอย่างไร โดยดูผลจากโปรแกรมวัดและวิเคราะห์การใช้พลังงานไฟฟ้าซึ่งจะสามารถแสดงเปรียบเทียบให้เห็นถึงความแตกต่างระหว่างก่อนและหลังการปรับปรุง เปลี่ยนแปลงได้

ตัวอย่างการเปรียบเทียบข้อมูลย้อนหลังระหว่างเดือนก่อนและหลังวางแผนการใช้ไฟฟ้า

อุปกรณ์ควบคุมโหลดเพื่อการประหยัดพลังงานไฟฟ้า

  1. Time Switches คือเครื่องตั้งเวลาการทำงาน สามารถควบคุมให้โหลดไฟฟ้าทำงานตามเวลาที่กำหนดได้ เช่น เครื่องปรับอากาศ เครื่องทำน้ำร้อน-น้ำเย็น ไฟป้ายโฆษณา เป็นต้น

  2. Motion sensor เป็นอุปกรณ์ตรวจจับความเคลื่อนไหวของคน ใช้เพื่อตรวจจับและสั่งให้โหลดไฟฟ้าบางชนิดทำงานโดยอัตโนมัติในขณะที่มีคนอยู่เท่านั้น เช่น หลอดไฟและพัดลมระบายอากาศในห้องน้ำ และเมื่อไม่มีคนอยู่ หลอดไฟและพัดลมระบายอากาศก็จะปิดเอง

 
   

เพาเวอร์มิเตอร์รุ่นอื่นๆใน Series

  • วัดไฟ 1เฟส และ 3เฟส ได้ในเครื่องเดียว

  • วัดและแสดงค่าทางไฟฟ้าได้ถึง 51 ค่า

  • วัดค่ากระแสและแรงดันไฟแบบ True RMS

  • เลือกCT Secondary (5A หรือ1A) และPT Secondaryได้

  • แสดงผลด้วยตัวเลข LED 4หลัก 3แถว ที่มีความสว่างสูง

  • มีพอร์ทสื่อสารข้อมูล RS 485 MODBUS RTU

ตัวอย่างการนำเพาเวอร์มิเตอร์ RP-96EN ไปใช้งาน

การใช้เพาเวอร์มิเตอร์ RP-96EN ติดตั้งในตู้โหลดย่อย เพื่อดูค่าการใช้พลังงานไฟฟ้าของเครื่องจักรแต่ละตัวในกระบวนการผลิต

การใช้เพาเวอร์มิเตอร์ RP-96EN ติดตั้งหน้าตู้ MDB ตัวหลัก เพื่อทำการวัดปริมาณการใช้พลังงานไฟฟ้าทั้งหมดของทั้งโรงงาน

 
 

สนใจเรื่องการประหยัดพลังงาน สอบถามเพิ่มเติมได้ที่

สุวนันท์  Tel.095-3674817  Product Specialist งาน Energy Saving บริษัทแสงชัยมิเตอร์ จำกัด