รู้หรือไม่ แค่เปลี่ยนวิธีใช้ปั๊มลมก็ประหยัดต้นทุนได้

06/05/2022

     ระบบท่อลมในโรงงานที่มีอายุมากกว่า 5 ปี สามารถเกิดโอกาสลมรั่วได้ถึง 25% เนื่องจากต้องใช้พลังงานในการสร้างลมอัดอากาศอยู่ตลอดเวลา และการรั่วไหลของอากาศประมาณ 80% ไม่สามารถที่จะได้ยิน ดังนั้น เพื่อลดปัญหาเหล่านี้ให้เหลือน้อยที่สุด การติดตั้งเครื่องมือเพื่อช่วยตรวจเช็คการรั่วไหลของลมจึงถือว่าเป็นทางเลือกที่ดี เพราะการใช้ลมก็ถือว่าเป็นต้นทุนการผลิตด้วยเช่นกัน

     จะดีกว่าไหม ถ้าทำให้ปั๊มลมทำงานได้เต็มประสิทธิภาพและใช้ลมนั้นให้เกิดประโยชน์สูงสุด ด้วยการติดเครื่องมือวัดปริมาณเข้าและออกของลมในแต่ละไลน์การผลิตด้วยมิเตอร์วัดอัตราการไหลระบบอัลตราโซนิค (Ultrasonic Flow Meter TRX/TRZ) เพื่อตรวจเช็คการทำงานของปั๊มลมและระบบท่อส่งในโรงงานให้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ

การติดตั้งมิเตอร์วัดอัตราการไหลระบบอัลตราโซนิค สามารถช่วยดูพฤติกรรมการใช้ลมอย่างไร ?

การติดตั้งมิเตอร์วัดอัตราการไหลระบบอัลตราโซนิค แต่ละจุดมีข้อดีอย่างไร?

1. ติดตั้งมิเตอร์วัดอัตราการไหลและเพาเวอร์มิเตอร์หลังขาออกคอมเพรสเซอร์แต่ละตัว

  • สามารถแสดงผลปริมาณอากาศที่ผลิตได้ต่อปริมาณไฟฟ้าที่ใช้ได้

  • ติดตามสถานะการทำงานและความผิดปกติของคอมเพรสเซอร์ เช่น ฟิลเตอร์เริ่มจะตัน

  • เห็นภาพระบบการทำงานและการควบคุมการทำงานเปิด-ปิดคอมเพรสเซอร์ได้ชัดเจนมากขึ้น และช่วยในการตัดสินใจได้ว่าจำเป็นต้องเพิ่มลดจำนวนยูนิตหรือไม่

  • แสดงผลปริมาณการปล่อยก๊าซ CO2

2. ติดตั้งมิเตอร์วัดอัตราการไหลหลังขาออกจากแท้งค์เก็บลม

  • แสดงค่าปริมาณลมที่ใช้ไป และลมที่รั่วไหลรวมทั้งโรงงาน *การรั่วไหลของลมโดยทั่วไปมี 20 - 30% ของปริมาณการใช้ลมทั้งหมดในโรงงาน

  • แสดงค่าปริมาณลมที่รั่วไหลอย่างเห็นได้ชัด ทำให้สามารถตั้งเป้าหมายในการลดลมที่รั่วไหลได้ง่ายขึ้น และบรรลุเป้าหมายในการลดพลังงานได้อย่างรวดเร็ว

* ค่าเป้าหมายสำหรับการลดการรั่วไหลของลมโดยทั่วไปคือ 10% หรือน้อยกว่าจากการใช้งานทั้งหมด

3. ติดตั้งมิเตอร์วัดอัตราการไหลที่แต่ละไลน์การผลิต

  • เมื่อเทียบกันกับวิธีการในข้อ 2. ติดตั้งมิเตอร์วัดอัตราการไหลหลังขาออกแท้งค์เก็บลม วิธีการนี้สามารถแสดงว่าเกิดลมรั่วในจุดไหนได้ชัดกว่า และสามารถกำหนดลำดับความสำคัญในการบำรุงซ่อมแซมจุดที่เกิดการรั่วไหลของลมได้

  • สามารถดำเนินการได้อย่างละเอียดมากกว่าการซ่อมบำรุงเบื้องต้น และทำให้บรรลุเป้าหมายการลดต้นทุนได้อย่างรวดเร็ว

ประโยชน์ที่ได้รับจากการติดตั้ง

  1. ทำให้ทราบค่าพลังงานไฟฟ้าที่ใช้ เมื่อเทียบกับปริมาณลมที่ผลิตได้ ทำให้เห็นต้นทุนลมที่ใช้ต่อหน่วยเมื่อเทียบกับค่าไฟ

  2. ทราบปริมาณการใช้ลมในภาพรวมทั้งโรงงานและภาพรวมของลมรั่วที่เกิดขึ้นในโรงงานได้

  3. ทราบจุดที่ทำให้เกิดลมรั่ว และลดอัตราลมรั่วให้น้อยลง

ขอแนะนำมิเตอร์วัดอัตราการไหลของลมที่แสงชัยมิเตอร์จำหน่าย ดังนี้

มิเตอร์วัดอัตราการไหลของลม ระบบอัลตร้าโซนิค รุ่น TRX/TRZ

TRX (เกลียว)

สำหรับควบคุมปลายสายงาน
25A/ 32A

TRX (หน้าแปลนประกบ)

สำหรับการบริหารอาคาร/
โรงงาน/ สายงาน

TRZ (หน้าแปลน)

สำหรับการจัดการท่อหลัก

วิธีการติดตั้ง

ต่อโดยขันหัวเกลียวไปในท่อ

ใส่โบลด์ยาวที่แนบมาร้อยผ่าน
หน้าแปลนแล้วประกบใส่เข้าด้วยกัน

 

มิเตอร์วัดอัตราการไหลแบบอัลตร้าโซนิค รุ่น TRX/TRZ มีคุณสมบัติดังต่อไปนี้

  • การสูญเสียความดันเป็น “0” ดังนั้น การสูญเสียพลังงานโดยเปล่าประโยชน์ก็เป็น “0” ไม่มีสิ่งกีดขวางภายในอุปกรณ์ จึงไม่สูญเสียความดันอย่างเปล่าประโยชน์ !

  • ทนทานต่อฝุ่นละออง, คราบน้ำมันได้อย่างดีเยี่ยมมากกว่าแบบอื่นๆ อุปกรณ์การวัดไม่มีชิ้นส่วนที่เคลื่อนไหวหรือสิ่งกีดขวางภายใน มีความทนทานเป็นเลิศ (ทนทานต่อฝุ่น น้ำมันและละอองน้ำ)

  • ไม่จําเป็นต้องติดตั้งตัวกรอง และไม่ต้องเปลี่ยนแผ่นกรองเป็นประจํา

         **ถ้าภายในท่อสกปรกมาก แนะนําให้ติดตั้งในตำแหน่งท่อแบบแนวตั้ง

 

แบบ Orifice plate มีการสูญเสียความดัน

แบบ Vortex มีการสูญเสียความดัน คราบน้ำมัน สิ่งสกปรก เกาะติดเซนเซอร์ทําให้ค่าที่วัดเพี้ยนได้

แบบ Thermal คราบน้ำมัน สิ่งสกปรก เกาะติดเซนเซอร์ ทําให้ค่าที่วัดเพี้ยนได้

  • ไม่ต้องใช้แหล่งจ่ายไฟภายนอก (รุ่นแบตเตอรี่ในตัว) ไม่ต้องเดินสายไฟ! ใช้งานได้นานถึง 10 ปี ด้วยแบตเตอรี่ลิเธียมในตัว หรือจะใช้รุ่นที่มีแหล่งจ่ายไฟภายนอก (DC24V) ก็มีให้เลือกเช่นกัน

  • ระบบตรวจวัดแบบ 2 ทิศทาง สามารถตั้งค่าการตรวจวัดและแสดงผลได้ 2 ทิศทาง ทั้งแบบไหลไปและย้อนกลับ เพื่อตอบสนองการใช้งานที่หลากหลายของระบบท่อลม ทั้งระบบไหลทางเดียวและระบบไหลแบบท่อวน (Loop piping) และยังใช้ตรวจวัดปริมาณลมที่ถูกเปลี่ยนถ่ายระหว่างโรงผลิตได้อีกด้วย

  • ช่วงการตรวจวัดกว้างถึง 1:60 ครอบคลุมทุกช่วงการตรวจวัด หมดปัญหาเรื่องช่วงอัตราการไหลที่ไม่ตอบสนองต่อสัญญาณ ด้วยขอบเขตการตรวจวัดที่กว้างถึง 60 เท่า จากอัตราการไหลต่ำสุดถึงอัตราการไหลสูงสุด