รังสีอัลตราไวโอเลต และผลกระทบต่อร่างกาย

รังสีอัลตราไวโอเลต และผลกระทบต่อร่างกาย

รังสีอัลตราไวโอเลต (Ultraviolet Radiation : UV) หรือรังสีเหนือม่วง 

เป็นรังสีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่เกิดจากการแผ่ของดวงอาทิตย์ ซึ่งมีความยาวคลื่นอยู่ในช่วง 100~400 นาโนเมตร ความถี่ 1015~1217Hz ซึ่งตาของมนุษย์ไม่สามารถมองเห็นได้ มีคุณสมบัติไม่แตกตัว (non-ionizing)

แหล่งกำเนิดรังสีอัลตราไวโอเลต

1.การแผ่รังสีของดวงอาทิตย์ (solar radiation) เป็นแหล่งกำเนิดสำคัญของการแผ่รังสีที่ส่องมาถึงโลก โดยประกอบด้วยรังสี

 

 

  • UVA (Long wave UVR หรือ Black light) มีความยาวคลื่นอยู่ในช่วง 320~400 นาโนเมตร และไม่ถูกดูดซับจากชั้นบรรยากาศที่ห่อหุ้มโลก หากสัมผัสในระยะเวลานานๆ จะสร้างความเสื่อมโทรมให้กับคอลลาเจนและอิลาสตินจนหมดความยืดหยุ่น ก่อให้เกิดความเหี่ยวย่นของผิวหนัง แต่ไม่ทำให้เกิดการอักเสบของผิวหนัง จนถึงระดับรุนแรงที่อาจเกิดเป็นเซลล์มะเร็งได้

  • UVB (Middle UVR หรือ Sunburn radiation) มีความยาวคลื่นอยู่ในช่วง 290~320 นาโนเมตร ชั้นบรรยากาศที่ห่อหุ้มโลกดูดซับรังสีชนิดนี้ไม่ได้ทั้งหมด ทำให้มีบางส่วนตกลงมายังพื้นโลก เมื่อสัมผัสร่างกาย จะผ่านเข้าไปที่ชั้นผิวหนังกำพร้าและผิวหนังแท้ด้านบนเท่านั้น แต่รังสี UVBนั้นมีอยู่มาก และเป็นสาเหตุของการเกิดผิวไหม้ จนถึงระดับรุนแรงที่อาจเกิดเป็นเซลล์มะเร็งได้เช่นกัน

  • UVC (Short wave UVR หรือ Germicidal radiation) เป็นรังสีคลื่นสั้น ช่วงความยาวคลื่น 200~290 นาโนเมตร แสงช่วงนี้ส่วนใหญ่จะถูกดูดซับโดยก๊าซโอโซนในชั้นบรรยากาศ ส่งผลให้ร่างกายไม่ได้รับผลกระทบในรังสีชนิดนี้ แต่หากในอนาคต ชั้นบรรยากาศไม่สามารถดูดซับได้หมด รังสี UVC ก็จะเป็นอีกหนึ่งรังสี ที่เราจะต้องหาทางรับมือป้องกันมัน

  • ช่วงคลื่นที่มนุษย์มองเห็น และรังสีอินฟาเรด แต่รังสีบางส่วนจะถูกดูดซับไว้ในชั้นบรรยากาศ ส่วนที่เหลือสามารถส่องมาถึงผิวโลกในระดับไม่เป็นอันตรายต่อมนุษย์

 

2.แหล่งที่มนุษย์สร้างขึ้น (Artificial sources) ได้แก่วัตถุทุกชนิดที่ถูกทำให้ร้อน จนมีอุณหภูมิสูง มากกว่า 2500 องศาเคลวิน (2227 องศาเซลเซียส) สามารถปล่อยรังสีอัลตราไวโอเลตได้ ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่มนุษย์ประดิษฐ์ขึ้นสำหรับการใช้ประโยชน์ในด้านต่างๆ เช่น ทางการแพทย์ ทางการเกษตร เป็นต้น

ประโยชน์ของรังสีอัลตราไวโอเลต

หากได้รับรังสีอัลตราไวโอเลต ที่ในปริมาณที่พอเหมาะจะมีประโยชน์ต่อการสร้างวิตามิ(D) ช่วยการเจริญเติบโตของร่างกาย และรังสีอัลตราไวโอเลตยังมีส่วนช่วยในด้านการแพทย์และทางการเกษตร ด้วยเช่นกัน

 

ผลกระทบของรังสีอัลตราไวโอเลตต่อร่างกาย

 

 

สำหรับค่าดัชนียูวีนั้น แบ่งออกเป็น 5 ระดับ ดังนี้

สีเขียว (0-2) Low : มีผลต่อผิวหนังต่ำ
สีเหลือง (3-5) Moderate : เริ่มมีผลต่อผิวหนัง ควรแต่งกายให้มิดชิด สวมหมวกปีกกว้าง และทาครีมกันแดด
สีส้ม (6-7) High : ควรแต่งกายให้มิดชิด สวมหมวกปีกกว้าง และทาครีมกันแดดซ้ำทุก 2 ชม.
สีแดง (8-10) Very High : ปฏิบัติเช่นเดียวกับ ระดับสีส้ม แต่ความเข้มข้นระดับนี้เริ่มส่งผลเสียรุนแรงต่อผิวหนังและดวงตา
สีม่วง (มากกว่า 11 ขึ้นไป) Extreme : ควรหลีกเลี่ยงการออกแดด เพราะแสงอาทิตย์จะเผาไหม้ผิวหนัง และส่งผลเสียต่อดวงตาในเวลาไม่กี่นาที

หากได้รับรังสีอัลตราไวโอเลตในปริมาณมากติดต่อกันเป็นเวลานาน อาจส่งผลกระทบต่อส่วนต่าง ๆ ของร่างกายทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ดังนี้

  • ผลกระทบต่อผิวหนัง เช่น ผิวคล้ำแดด ริ้วรอย ไปจนถึงอาการแพ้แดด ผิวไหม้จากแดด และอาจรุนแรงถึงขั้นเป็นมะเร็งผิวหนังได้

  • ผลกระทบต่อดวงตา เช่น ต้อเนื้อ, ต้อกระจก, กระจกตาอักเสบ และเยื่อบุตาอักเสบ

  • ผลกระทบต่อระบบภูมิคุ้มกัน รังสีอัลตราไวโอเลตอาจเป็นอันตรายต่อ DNA และส่งผลให้ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ และเป็นปัจจัยก่อให้เกิดโรคมะเร็งตามมา นอกจากนี้ การได้รับรังสีอัลตราไวโอเลตในปริมาณสูงยังส่งผลให้วัคซีนทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ

 

การป้องกันรังสีอัลตราไวโอเลต

การป้องกันด้วยวิธีง่าย ๆอาจช่วยลดความเสี่ยงจากการได้รับรังสีอัลตราไวโอเลตได้ ดังนี้

หลีกเลี่ยงการออกแดด ในช่วง 9.00-14.00 น. เนื่องจากมีความเข้มของรังสี อัลตราไวโอเลตมากและเป็นอันตรายต่อสุขภาพ

สวมเสื้อแขนยาวและกางเกงขายาวผ้าทอที่รัดรูปและมีสีเข้ม ในปัจจุบันเสื้อผ้า บางยี่ห้อหันมาใช้สารเคลือบวัสดุสิ่งทอที่มีคุณสมบัติดูดซับรังสีอัลตราไวโอเลต

สวมหมวกและแว่นกันแดด ที่มีคุณสมบัติป้องกันรังสีอัลตราไวโอเลต

กางร่ม วิธีนี้แม้จะป้องกันรังสีอัลตราไวโอเลตไม่ได้ 100 เปอร์เซ็นต์ แต่หากทา ครีมกันแดดร่วมด้วยจะช่วยป้องกันร่างกายจากรังสีอัลตราไวโอเลตได้อย่างมี ประสิทธิภาพมากกว่าการใช้ร่มเพียงอย่างเดียว

ทาครีมกันแดด ที่มีค่าป้องกันรังสี UVB (Sun Protection Factor: SPF) ตั้งแต่ 30 ขึ้นไป ทาในปริมาณที่เพียงพอและทาซ้ำทุกๆ 2 ชั่วโมง 

หลีกเลี่ยงการใช้เครื่องทำผิวสีแทนและหลอดไฟแสงยูวี รังสีอัลตราไวโอเลตจาก อุปกรณ์สร้างรังสียูวีนั้นส่งผลกระทบต่อร่างกายได้ไม่ต่างจากรังสีอัลตราไวโอเลต จากแสงอาทิตย์ นอกจากนี้ ในปัจจุบันหลอดไฟแสงยูวียังถูกนำมาใช้งานในหลาย ด้าน เช่น การทำเล็บเจล ซึ่งแม้จะมีปริมาณรังสียูวีไม่มาก แต่ก็ควรป้องกันด้วยการ ทาครีมกันแดดทุกครั้งก่อนใช้อุปกรณ์เหล่านี้

สนใจติดต่อสอบถาม บริษัท แสงชัยมิเตอร์ จำกัด

ให้บริการด้วยประสบการณ์กว่า 50 ปี

มากประสบการณ์

ให้บริการด้วยประสบการณ์กว่า 60 ปี

สินค้าคุณภาพ

มากกว่า 10,000 รายการ

รางวัลธรรมาภิบาลดีเด่นแห่งปี 2553

บริการด้วยใจ

รางวัลธรรมาภิบาลดีเด่นแห่งปี 2553

Call Center: 02-299-3333

ตั้งแต่วันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 8.30-17.30 น. และวันเสาร์ เวลา 8.30 - 15.30 น.

กรุณาเข้าสู่ระบบหรือ สมัครเป็นสมาชิกของเรา

สมาชิกสามารถดาวน์โหลดคู่มือการใช้งาน และ Software ที่จำเป็นสำหรับการใช้งานตัวเครื่อง รวมถึงได้รับความสะดวกสบายในการขอใบเสนอราคา คุณสามารถ:

ลืมรหัสผ่าน?

สินค้าในใบเสนอราคาของคุณ

คุณยังไม่ได้เลือกใส่สินค้า
ในใบเสนอราคาของคุณ