กระบวนการ CIP/SIP คืออะไร
กระบวนการ CIP/SIP คืออะไร
CIP (Cleaning In Place) เป็นกระบวนการทำความสะอาดโดยไม่ต้องถอดชิ้นส่วน และ SIP (Sterilization In Place) คือ การฆ่าเชื้อโดย ไม่ต้องถอดท่อ เป็นระบบที่เหมาะกับอุตสาหกรรมที่สุขอนามัยเป็นสิ่งสำคัญ และต้องไม่มีการปนเปื้อนใดๆ เช่น อุตสาหกรรมอาหาร เครื่องดื่ม ฯลฯ ซึ่ง สายการผลิตทั้งหมดสามารถทำความสะอาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายอีกด้วย
ในกระบวนการ CIP/SIP นั้นจะมีการตรวจสอบและควบคุมค่าพารามิเตอร์ต่างๆ ดังนี้
- การไหล (Flow) (ความเร็ว : velocity)
- อุณหภูมิ (Temperature)
- ความดัน (Pressure)
- เวลา (Time)
- ความถี่ในการทำความสะอาด (Cleaning frequency)
การไหลมีความสำคัญในกระบวนการเป็นอย่างมาก เนื่องจากในขั้นตอนการทำความสะอาดในงานอุตสาหกรรมอาหาร ยา เครื่องดื่ม หากในระหว่างการทำความสะอาดนั้น ไม่มีการไหลของน้ำหรือน้ำยาที่ใช้ในการล้างท่อการผลิต อาจจะทำให้เกิดความเสียหาย และเกิดสิ่งสกปรกตกค้างอีกด้วย
ดังนั้น การที่จะทราบว่ามีการไหลหรือไม่ไหลภายในกระบวนการนั้น จำเป็นต้องมีอุปกรณ์ที่สามารถทำให้ทราบพฤติกรรมในส่วนที่คุณ ไม่สามารถมองเห็นได้ ซึ่งอุปกรณ์ตัวนั้นก็คือ เซนเซอร์วัดการไหลแบบอิเล็กทรอนิกส์ นั่นเอง
เซนเซอร์วัดการไหลแบบอิเล็กทรอนิกส์
เซนเซอร์วัดการไหลแบบอิเล็กทรอนิกส์นับว่าเป็นที่นิยมในอุตสาหกรรมเป็นอย่างมาก นำไปใช้กับงานที่ไม่สามารถใช้เซนเซอร์แบบ แมคคานิกส์หรือแบบใบพายได้ ในงานที่มีแรงดันสูง มีอัตราการไหลสูง หรืองานที่ทำให้เกิดความเสียหายกับเซนเซอร์แบบใบพาย ได้นั่นเอง
เซนเซอร์วัดการไหลแบบอิเล็กทรอนิกส์ ทำงานโดยใช้หลักการถ่ายเทความร้อน โดยที่ส่วนปลายของเซนเซอร์จะสร้างความร้อนต่ำๆ ขึ้นมาเทียบกับอุณหภูมิของตัวกลางที่เป็นของเหลว เมื่อมีของเหลวเริ่มไหลผ่านเซนเซอร์ ของเหลวจะพาเอาความร้อนที่ปลาย เซนเซอร์ออกไป อุณหภูมิของปลายเซนเซอร์จะลดลงโดยสัมพันธ์กันกับการไหลของของเหลวที่เพิ่มขึ้น เซนเซอร์จึงรับรู้การไหล ของของเหลวได้จากการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิดังกล่าว
จากหลักการดังกล่าวทำให้โครงสร้างของเซนเซอร์วัดการไหลแบบอิเล็กทรอนิกส์มีความแข็งแรง เพราะไม่ต้องมีชิ้นส่วนที่เคลื่อนไหว ไม่มีการสึกหรอ จึงมีอายุการใช้งานยาวนาน และสามารถใช้ในงานบางอย่างที่สวิทช์การไหลแบบใบพายใช้ไม่ได้ เช่น ใช้กับของเหลว ที่มีความหนืดสูง มีความดันสูง เป็นต้น นอกจากนี้ด้วยโครงสร้างของเซนเซอร์ที่เรียบง่าย ทำให้สามารถนำไปใช้กับอุตสาหกรรมอาหาร และยา ที่ไม่ต้องการให้อาหารเข้าไปติดอยู่ในตัวของเซนเซอร์ได้
เซนเซอร์วัดการไหลแบบอิเล็กทรอนิกส์ นั้นมีทั้งแบบที่มีเซนเซอร์กับตัวแอมปลิฟายเออร์รวมอยู่ในตัวเดียวกัน และแบบแยกออกจากกัน
ข้อดีของการใช้เซนเซอร์วัดการไหลแบบแยกโพร๊บ คือ
- เซนเซอร์โพร๊บมีรูปร่างกระทัดรัด สามารถติดตั้งในพื้นที่จำกัดได้ดี
- ปรับตั้งค่าและดูสถานะการทำงานได้ง่าย ผู้ใช้งานสามารถปรับตั้งค่าหรือดูสถานะการทำงานได้ที่ตัวแอมปลิฟายเออร์ที่เชื่อมต่อ ออกมาที่ตู้คอนโทรลได้อย่างสะดวก
- ปลดล็อคข้อจำกัดในการใช้งานของแบบรวมแอมปลิฟายเออร์ เพราะแบบแยกโพร๊บจะทนอุณหภูมิได้สูงกว่า มีรุ่นที่ทนอุณหภูมิ ได้สูงถึง 160℃ และทนต่อการสั่นสะเทือนได้ดีกว่าจึงเหมาะกับการติดตั้งบนท่อที่สั่น อันเนื่องมาจากการทำงานของปั๊ม หรือเครื่องจักร ได้เป็นอย่างดี
- สะดวก ประหยัดในกรณีที่เกิดการเสียหาย หรือชำรุด สามารถเปลี่ยนเพียงตัวที่เสียหายได้
ทั้งนี้ทางแสงชัยมิเตอร์ มีเซนเซอร์วัดการไหลแบบอิเล็กทรอนิกส์ ยี่ห้อ EGEเซนเซอร์คุณภาพจากประเทศเยอรมันทำจากวัสดุที่แข็งแรง ทนทาน ได้มาตรฐาน ทั้งแบบที่ใช้งานทั่วไป รุ่น ST Series และรุ่น STK Series เป็นเซนเซอร์วัดการไหลอิเล็กทรอนิกส์แบบโพร๊บที่ต้องใช้งานคู่กับแอมปลิฟาย เออร์รุ่น : SKZ Series ,SKM Series
ข้อมูลทางเทคนิคของเซนเซอร์วัดการไหลรุ่น ST Series
- เกลียวยึด : M18 1.5, G1/4, G1/2
- วัดการไหลของน้ำ : 1~150 cm/s , น้ำมัน : 3~300 cm/s
- ทนอุณหภูมิ : สูงสุด 120℃ และรุ่นพิเศษ 160℃
- ทนแรงดันได้ : 100 bar
- วัสดุเซนเซอร์ : รุ่นมาตรฐานเป็นสแตนเลส 316Ti
รุ่นทนสารเคมีเป็น Hastelloy, Titanium/metal ceramic - การต่อสาย : เคเบิ้ล , คอนเนคเตอร์ M12
- ใช้กับแอมปลิฟายเออร์รุ่น : SKZ Series, SKM Series
ข้อมูลทางเทคนิคของแอมปลิฟายเออร์รุ่น SKM Series
- ใช้ไฟ 85~260 VAC หรือ 24 VDC
- เอ๊าท์พุทแบบรีเลย์
- มีระบบปรับตั้งค่าการทำงานแบบอัตโนมัติ กดปุ่มเพียงปุ่มเดียวก็สามารถปรับค่า การทำงานที่เหมาะสมได้อย่างง่ายดาย
- อุณหภูมิขณะใช้งาน : -20~60 องศาเซลเซียส
- สามารถใช้งานร่วมกับเซนเซอร์วัดการไหลได้หลากหลายรุ่น : ST4..., STK4..., LTZ4...
วงจรการต่อสาย
นอกจากนี้ ทางแสงชัยมิเตอร์ยังมีเซนเซอร์อิเล็กทรอนิกส์แบบโพร๊บรุ่นที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน 3-A โดยมี Process Connection เป็น Triclamp หรือ DIN11851 ให้เลือก เหมาะที่จะนำไปใช้ในกระบวณการผลิตอาหาร นม เครื่องดื่ม และยาอีกด้วย