ค่าไฟจ่อพุ่ง
ค่าไฟจ่อพุ่ง
กกพ.เตรียมปรับขึ้นค่า FT ของเดือน ม.ค. - เม.ย. 66 ซึ่งจะส่งผลให้ค่าไฟสูงถึง 5.37 - 6.03 บาท ต่อหน่วย
ทั้งนี้ อ้างอิงจากเว็บไซท์ของ กกพ.
พบว่าจะมีการเปิดรับฟังความคิดเห็นของประชาชนตั้งแต่วันที่ 14-27 พฤศจิกายน 2565 ก่อนการประกาศใช้จริง ทั้งนี้ได้มีการลดภาระให้กับผู้ใช้ไฟโดยลดค่าบริการรายเดือนของบ้านอยู่อาศัยจาก 38.22 บาท เหลือ 24.62 บาท และสำหรับกิจการขนาดเล็กจาก 46.16 เหลือ 33.29 บาท
ทั้งนี้ การลดค่าไฟอย่างยั่งยืนอาจจะต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ไฟ เปลี่ยนเครื่องใช้ไฟฟ้าเบอร์ 5 ที่ใช้ไฟน้อยลง รวมไปถึงเทรนด์ใหม่ที่มาแรงในตอนนี้คือการติดต้ังระบบ solar หรือผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์
สนใจติดต้ังระบบผลิตไฟฟ้าด้วยพลังงานแสงอาทิตย์
https://www.sangchaimeter.com/support_detail/SCM_Solar-Free
หรือโทร 086-3404548, 086-3408915
สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ในฐานะโฆษกคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ. เปิดเผยว่า กกพ. ในการประชุมครั้งที่ 51/2565 (ครั้งที่ 818) เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2565 มีมติรับทราบภาระต้นทุนค่าเอฟที่ประจำรอบ พ.ค. - ส.ค. 2565 และเห็นชอบผลการคำนวณประมาณค่าเอฟทีสำหรับงวดเดือน ม.ค. - เม.ย. 2566 พร้อมให้สำนักงาน กกพ.นำค่าเอฟทีประมาณการและแนวทางการจ่ายภาระต้นทุนคงค้างที่ กฟผ. แบกรับในกรณีต่างๆ ดังนี้
กรณีที่ 1 ค่าเอฟทีเรียกเก็บประจำงวดเดือน ม.ค.- เม.ย. 2566 จำนวน 224.98 สตางค์ต่อหน่วย แบ่งเป็นเอฟทีขายปลีกประมาณการที่สะท้อนต้นทุนเดือน ม.ค.- เม.ย. 2566 จำนวน 158.31 สตางค์ต่อหน่วยและเงินทยอยเรียกเก็บเพื่อชดเชยต้นทุนที่เกิดขึ้นจริงบางส่วน 66.67 สตางค์ต่อหน่วยเพื่อให้ กฟผ. ได้รับเงินคืนครบภายใน 1 ปี โดย กฟผ. จะต้องบริหารภาระต้นทุนที่เกิดขึ้นจริงแทนประชาชนจำนวน 81,505 ล้านบาททำให้ค่าไฟฟ้า (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ปรับเพิ่มขึ้นเป็น 6.03 บาทต่อหน่วย
กรณีที่ 2 ค่าเอฟทีเรียกเก็บประจำงวดเดือน ม.ค. - เม.ย. 2566 จำนวน 191.64 สตางค์ต่อหน่วย แบ่งเป็นเอฟทีขายปลีกประมาณการที่สะท้อนต้นทุนเดือน ม.ค.- เม.ย. 2566 จำนวน 158.31 สตางค์ต่อหน่วยและเงินทยอยเรียกเก็บเพื่อชดเชยต้นทุนที่เกิดขึ้นจริงบางส่วน 33.33 สตางค์ต่อหน่วยเพื่อให้ กฟผ. ได้รับเงินคืนครบภายใน 2 ปี โดย กฟผ. จะต้องบริหารภาระต้นทุนที่เกิดขึ้นจริงแทนประชาชนจำนวน 101,881 ล้านบาททำให้ค่าไฟฟ้า (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ปรับเพิ่มขึ้นเป็น 5.70 บาทต่อหน่วย
กรณีที่ 3 ค่าเอฟทีเรียกเก็บประจำงวดเดือน ม.ค. - เม.ย. 2566 จำนวน 158.31 สตางค์ต่อหน่วย โดย กฟผ. จะต้องรับภาระต้นทุนที่เกิดขึ้นจริงแทนประชาชนจำนวน 122,257 ล้านบาท ทำให้ค่าไฟฟ้า (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ปรับเพิ่มขึ้นเป็น 5.37 บาทต่อหน่วย
ข้อมูล สำนักงาน กกพ.