ขั้นตอนและหลักเกณฑ์ ในการตรวจสภาพรถ l เครื่องวัดระดับเสียง
ขั้นตอนและหลักเกณฑ์ ในการตรวจสภาพรถ l เครื่องวัดระดับเสียง
ขั้นตอนและหลักเกณฑ์ ในการตรวจสภาพรถ
เอกสารที่ใช้ประกอบการตรวจสภาพ
ใบคู่มือจดทะเบียน หรือสำเนาใบคู่มือจดทะเบียน
การตรวจสอบความถูกต้องของรถ
แผ่นป้ายทะเบียนรถ, ประเภทรถ, ลักษณะรถ, แบบรถ, สีรถ, หมายเลขตัวรถ, ชนิดเครื่องยนต์, เลขเครื่องยนต์, ชนิดเชื้อเพลิง
การตรวจพินิจภายในและภายนอก
ตรวจสภาพตัวถัง, สี, อุปกรณ์เกี่ยวกับความปลอดภัย, ที่นั่ง, เข็มขัดนิรภัย, ระบบไฟส่องสว่าง, ไฟสัญญาณ, อุปกรณ์ไฟฟ้า, พวงมาลัย, ที่ปัดน้ำฝน, กงล้อและยาง ฯลฯ
การตรวจพินิจใต้ท้องรถ
ระบบบังคับเลี้ยว, ระบบรองรับน้ำหนัก, ระบบเบรค, เครื่องยนต์, ระบบส่งกำลัง, สภาพตัวถังโครงคัสซี, ระบบไอเสีย, ระบบเชื้อเพลิง, กงล้อและยาง ฯลฯ
การทดสอบศูนย์ล้อหน้า
ค่าเบี่ยงเบนศูนย์ล้อหน้าไม่เกิน ±5 เมตรต่อกิโลเมตร (Sideslip Tester)
การทดสอบประสิทธิภาพห้ามล้อ (เบรค)
ห้ามล้อมือ
แรงห้ามล้อทุกล้อรวมกันต้องไม่น้อยกว่า ร้อยละ 20 ของน้ำหนักรถ
ห้ามล้อเท้า
แรงห้ามล้อทุกล้อรวมกันต้องไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 ของน้ำหนักรถ ผลต่างของแรงห้ามล้อเท้าด้านขวา
และด้านซ้ายต้องไม่เกินร้อยละ 25 ของแรงห้ามล้อสูงสุดในเพลานั้น
การตรวจวัดโคมไฟหน้า
-
ตรวจสอบทิศทางเบี่ยงเบนของลำแสง
-
ตรวจวัดค่าความเข้มส่องสว่าง
เกณฑ์การตรวจวัดโคมไฟหน้า
-
โคมไฟแสงพุ่งต่ำ
มุมกดจากแนวราบระหว่างร้อยละ 0.5 (0.29 องศา) ถึงร้อยละ 4.0 (2.29 องศา) ความเข้มส่องสว่าง
ดวงไฟแต่ละดวงไม่น้อยกว่า 6,400 แคนเดลลา (cd) และทิศทางไม่เบี่ยงเบนไปด้านขวา -
โคมไฟแสงพุ่งไกล
-
ความเข้มแสงส่องสว่างโคมไฟแต่ละดวงไม่น้อยกว่า 12,000 แคนเดลลา (cd) และทุกดวงรวมกันต้องไม่เกินกว่า 430,000 แคนเดลลา (cd)
-
ทิศทางไม่เบี่ยงเบนไปด้านขวาและไม่สูงเกินกว่าเส้นแนวราบ
-
การตรวจวัดก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ (CO) และ ก๊าซไฮโดรคาร์บอน (HC)
รถยนต์
-
รถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน ลักษณะเก๋ง
1.1 จดทะเบียนก่อน 1 พ.ย. 2536
ค่าก๊าซ CO ไม่เกินร้อยละ 4.5
ค่าก๊าซ HC ไม่เกิน 600 ส่วนในล้านส่วน
1.2 จดทะเบียน 1 พ.ย. 2536 - 31 ธ.ค. 2549
ค่าก๊าซ CO ไม่เกินร้อยละ 1.5
ค่าก๊าซ HC ไม่เกิน 200 ส่วนในล้านส่วน -
รถยนต์อื่น นอกจากข้อ 1 ที่จดทะเบียนก่อน 1 ม.ค. 2550
ค่าก๊าซ CO ไม่เกินร้อยละ 4.5
ค่าก๊าซ HC ไม่เกิน 600 ส่วนในล้านส่วน -
รถยนต์ที่จดทะเบียนตั้งแต่ 1 ม.ค. 2550
ค่าก๊าซ CO ไม่เกินร้อยละ 0.5
ค่าก๊าซ HC ไม่เกิน 100 ส่วนในล้านส่วน
รถจักรยานยนต์
-
จดทะเบียนก่อน 1 ก.ค. 2549
ค่าก๊าซ CO ไม่เกินร้อยละ 4.5
ค่าก๊าซ HC ไม่เกิน 10,000 ส่วนในล้านส่วน -
จดทะเบียน 1 ก.ค. 2549 - 31 ธ.ค. 2552
ค่าก๊าซ CO ไม่เกินร้อยละ 3.5
ค่าก๊าซ HC ไม่เกิน 2,000 ส่วนในล้านส่วน -
จดทะเบียนตั้งแต่ 1 ม.ค. 2553
ค่าก๊าซ CO ไม่เกินร้อยละ 2.5
ค่าก๊าซ HC ไม่เกิน 1,000 ส่วนในล้านส่วน
การตรวจวัดควันดำ
-
ระบบกระดาษกรอง ไม่เกินร้อยละ 50
-
ระบบวัดความทึบแสง ไม่เกินร้อยละ 45
การตรวจวัดระดับเสียง
-
รถยนต์ ไม่เกิน 100 เดซิเบล เอ
-
รถจักรยานยนต์ ไม่เกิน 95 เดซิเบล เอ
วิธีการตรวจวัดระดับเสียงจากท่อไอเสีย
1 ปรับเครื่องวัดให้ถูกต้อง
-
ปรับวงจรถ่วงน้ำหนักไปที่ A
-
ปรับลักษณะความไวตอบรับเสียงไปที่ Fast
2 เดินเครื่องยนต์ให้อยู่ในอุณหภูมิใช้งาน และปิดเครื่องปรับอากาศ
3 วางไมโครโฟนสูงเท่าความสูงของปลายท่อไอเสีย แต่ต้องสูงจากพื้นไม่น้อยกว่า 0.2 เมตร ห่างจากปลายท่อไอเสีย 0.5 เมตร แกนไมโครโฟนขนานกับพื้น และทำมุม 45 องศากับปลายท่อไอเสีย
4 ทำการวัด 2 ครั้ง ใช้ค่าที่วัดได้สูงสุดเป็นเกณฑ์ตัดสิน และค่าแตกต่างกันไม่เกิน 2 เดซิเบล เอ
5 กรณีค่าระดับเสียงจากการตรวจวัดทั้ง 2 ครั้ง แตกต่างกันเกิน 2 เดซิเบล เอ ให้ทำการวัดใหม่
รถยนต์
|
รถจักรยานยนต์
|
ค่าระดับเสียงสูงสุดไม่เกิน 100 เดซิเบล เอ |
ค่าระดับเสียงสูงสุดไม่เกิน 95 เดซิเบล เอ |
เครื่องวัดระดับเสียง (Sound Level Meter) รุ่น DS-42 ยี่ห้อ DIGICON และเครื่องกำเนิดเสียงมาตรฐานรุ่น SC-942 ยี่ห้อ DIGICON ของบริษัทแสงชัยมิเตอร์นั้น ผ่านการเห็นชอบจาก กรมขนส่งทางบกให้ใช้ในการตรวจสภาพรถของสถานตรวจสภาพรถได้ อ้างถึง "หนังสือกรมการขนส่งทางบกที่ คค.๐๔๑๘.๖/๒๘๗๖ ลงวันที่ ๑๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๓"
ขอบคุณข้อมูลจาก จาก https://www.dlt.go.th (กรมการขนส่งทางบก)