7 ข้อต้องรู้เมื่อเลือกซื้อปลั๊กพ่วงหรือรางปลั๊กไฟ

1. สังเกตว่ามีเครื่องหมาย มอก. ก่อนซื้อทุกครั้ง

ปลั๊กพ่วงหรือรางปลั๊กไฟที่ได้มาตรฐานจะมีเครื่องหมาย มอก. ซึ่งตามข้อกำหนดของ มอก. จะต้องมีอุปกรณ์ป้องกันไฟเกิน ทำให้ไม่เกิดกระแสไฟฟ้าลัดวงจรซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ อีกทั้ง ปลั๊กไฟที่ได้มาตรฐานจะมีอายุการใช้งานยืนยาว ไม่ต้องเปลี่ยนบ่อยครั้ง ช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย

2. เต้ารับ-เต้าเสียบ และสายไฟ ต้องมีความปลอดภัย

• เต้ารับ มีตัวปิดช่องพร้อมขั้วต่อสายดิน

• เต้าเสียบ มีฉนวนกันไฟฟ้าที่โคนขาปลั๊ก ป้องกันการสัมผัสโดนขาปลั๊กไฟ

• สายไฟ และตัวรางไฟ ผลิตจากวัสดุที่ไม่ลามไฟ เพื่อป้องกันเพลิงไหม้ในกรณีที่เกิดไฟฟ้าลัดวงจร

3. มีอุปกรณ์ป้องกันกระแสไฟเกิน หรือ Breaker Switch

สำหรับปลั๊กพ่วงหรือรางปลั๊กไฟที่มีเต้ารับตั้งแต่ 3 ตัวขึ้นไป ต้องมีอุปกรณ์ป้องกันกระแสไฟเกิน ไม่ให้เกิดอันตรายหรือไฟฟ้าลัดวงจร จะสังเกตุเห็นว่า ที่ตัวรางปลั๊กจะมีปุ่มสีดำเล็กๆ หรือที่ตัวสวิทช์จะเขียนว่า Reset หากเกิดไฟเกินหรือไฟลัดวงจร สวิทช์จะตัดการทำงานหรือการจ่ายไฟให้เครื่องใช้ไฟฟ้าโดยอัตโนมัติ หลังจากนั้น ผู้ใช้งานต้องถอดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้า แล้วกดสวิทช์เปิดให้ปลั๊กกลับมาทำงานเป็นปกติ

4. มี Surge Protection ป้องกันไฟกระชากหรือฟ้าผ่า

กรณีที่ใช้ในงานกับเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ sensitive กับแรงดันไฟ พวกคอมพิวเตอร์ เครื่องมือแพทย์ ต้องเลือกใช้ปลั๊กพ่วงที่มี Surge Protection สำหรับป้องกันไฟกระชาก เพื่อยืดอายุการใช้งานของอุปกรณ์ไฟฟ้า

5. เลือกขนาดวัตต์ของปลั๊กให้เหมาะกับการกินไฟของเครื่องใช้ไฟฟ้า

เลือกซื้อขนาดของรางปลั๊กไฟให้เหมาะสมกับเครื่องใช้ไฟฟ้า เช่น หม้อหุงข้าวใช้กำลังไฟฟ้า 1,000 วัตต์ ควรเลือกซื้อปลั๊กไฟให้มีขนาดใหญ่กว่า 1,000 วัตต์ เป็นต้น และควรคำนึงถึงจำนวนเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ใช้งานพร้อมกันด้วยว่าหากเปิดพร้อมกันกินไฟกี่วัตต์ ต้องเลือกปลั๊กไฟที่มีขนาดเพียงพอครอบคลุมการใช้ไฟทั้งหมด

6. เลือกประเภทของปลั๊กให้เหมาะกับอุปกรณ์หรือสภาพแวดล้อมในการใช้งาน

ปัจจุบันปลั๊กพ่วงมีหลายแบบให้เลือกใช้เพื่อตอบโจทย์การใช้งานที่หลากหลายมากขึ้น

• สำหรับการใช้งานแบบสมบุกสมบันในโรงงาน ให้เลือกรุ่นที่ทนทานเป็นพิเศษ ซึ่งตัวปลั๊กจะเป็นกรอบยางกันกระแทก (Link)

• สำหรับการใช้งานนอกสถานที่ งานภาคสนาม หรือโรงงานที่ต้องการสายยาวพิเศษ ให้เลือกเป็น ล้อปลั๊กพ่วงที่จะมีความยาวถึง 30 เมตร (Link)

• สำหรับการใช้งานกับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ ให้เลือกที่มี Surge Protection (Link)

• สำหรับการใช้งานร่วมกับ Gadget ที่ชาร์จไฟด้วยพอร์ท USB เช่น โทรศัพท์มือถือ พัดลมขนาดเล็ก ลำโพงจิ๋ว ฯลฯ ก็เลือกปลั๊กประเภทที่มีพอร์ท USB มาให้ด้วย จะทำให้สะดวกต่อการใช้งานมากยิ่งขึ้น (Link)

7. ตรวจสอบสภาพปลั๊กพ่วงหรือรางปลั๊กไฟว่าอยู่ในสภาพดี

ตรวจสอบสภาพโดยรวมทั่วไป เช่น ไม่ชำรุด ไม่มีรอยขาด รอยไหม้ สายและปลั๊กอยู่ในสภาพสมบูรณ์