ใช้ไฟจาก Solar ดีกว่าไหม! ถ้าค่าไฟจะแพงขนาดนี้

ก.ย. นี้ เตรียมจ่าย ft 93.43 สตางค์
ผลิตไฟจาก Solar ดีกว่าไหม ถ้าค่าไฟจะแพงขนาดนี้

กกพ. มีมติปรับเพิ่มค่าไฟฟ้าผันแปร (ค่าเอฟที) ในงวดใหม่เดือน ก.ย.-ธ.ค. 65 (เดือนกันยายน - ธันวาคม 2565) เป็น 93.43

สตางค์ สูงเป็น New high เนื่องจากต้นทุนค่าเชื้อเพลิงจากก๊าซธรรมชาติเหลว (แอลเอ็นจี)
นำเข้าเพื่อทดแทนก๊าซธรรมชาติต้นทุนต่ำในอ่าวไทย และยังมีแนวโน้มราคาแพงต่อเนื่องตั้งแต่เดือน พฤษภาคม 65 จนถึงปัจจุบัน

ดังนั้น ครม. ได้ออก มาตรการลดค่าครองชีพ 2565 โดยลดภาระค่า FT ให้กับบ้านและกิจการขนาดเล็ก
เพื่อบรรเทาผลกระทบที่เกิดขึ้น โดยการให้ส่วนลดอัตราค่าไฟฟ้าผันแปร (ค่า FT) ให้แก่ผู้ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 300
หน่วยต่อเดือน ซึ่งจากเดิมเริ่มตั้งแต่เดือน พ.ค. – ส.ค. 2565 ขยายไปถึงค่าไฟฟ้างวดเดือน ก.ย. - ธ.ค. 65
โดยผู้ใช้ไฟฟ้าดังกล่าวที่จ่ายค่าไฟฟ้าให้กับการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) และ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.)
จะได้รับส่วนลดค่าไฟฟ้าจากการลดค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ ที่ 0.2338 บาทต่อหน่วย

แต่สำหรับสถานประกอบการ โรงงาน ที่ต้องใช้ไฟฟ้ามากๆ พลังงานทางเลือกอย่างเช่น การใช้ไฟฟ้าจาก Solar
หรือแสงอาทิตย์เป็นอีกแนวทางที่จะช่วยลดต้นทุนค่าไฟฟ้าได้อย่างเห็นผล
แม้ว่าการลงทุนติดตั้งระบบจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มมากขึ้นกว่าปีที่แล้วเนื่องจากค่าแผง ค่าอินเวอร์เตอร์ ค่าเหล็ก และค่าวัสดุต่างๆ
มีราคาแพงขึ้น เนื่องจากเงินบาทอ่อนตัวลง แต่การติดตั้ง solar ก็ยังเป็นวิธีที่ดี ให้ความคุ้มค่าต่อการลงทุน

	♦ ระยะเวลาคืนทุนเร็ว เพียง 3 - 5 ปีเท่านั้น เนื่องจากต้นทุนการผลิตที่เพียง 25 ล้านบาท ต่อ 1 MW
	♦ ประหยัดไฟได้ถึงปีละ 6 ล้านบาท หรือ 135 ล้านบาท ที่ 30 ปี (กรณีติดตั้ง 1 MW ค่าไฟหน่วยละ 4.5 บาท)
	♦ ระบบ Solar Roof ขนาด 1 MW ผลิตไฟฟ้าได้ปีละ 1,460,000 หน่วย
	♦ สถาบันการเงินหลายแห่งให้เงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ ซึ่งเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับผู้ลงทุนที่ไม่ต้องการควักเงินมาลงทุน
	♦ ทั้งนี้หากทำ Leasing ก็เหมือนนำผลประหยัดที่เกิดจากการผลิตไฟ หรือเงินที่เคยจ่ายค่าไฟให้การไฟฟ้ามาผ่อนจ่ายเป็นค่าติดตั้งระบบ Solar แทน