เทคนิคการเลือกใช้ม่านลำแสงนิรภัยให้อุบัติเหตุเป็น “0”
เทคนิคการเลือกใช้ม่านลำแสงนิรภัยให้อุบัติเหตุเป็น “0”
ม่านลำแสงนิรภัย หรือ Safety Light Curtain เป็นเซนเซอร์ที่ได้มาตรฐานด้านความปลอดภัย ใช้หลักการทำงานคือ เมื่อลำแสงถูกบังจะมีสัญญาณไปตัดระบบให้เครื่องจักรหยุดทำงานไม่ว่ากรณีใดๆ และถ้าหากเกิดความบกพร่องต่อระบบส่งและรับแสงทำให้แสงดับหรือความผิดปกติใดๆ ที่เกิดจากตัวม่านลำแสงนิรภัยเอง เครื่องจักรจะต้องไม่ทำงานด้วยเช่นกัน
นิยมนำมาใช้ติดตั้งหน้าเครื่องจักรอันตราย อาทิเครื่องตัด, พับ, ตอก, เจาะ, ปั๊ม หรือ Robot เคลื่อนที่อัตโนมัติ เพื่อป้องกันอันตรายจากความเผลอเลอของพนักงานที่อาจยื่นมือหรืออวัยวะใดๆ เข้าไปขณะเครื่องทำงาน
เทคนิคที่1 : เลือกม่านลำแสงที่มีระบุมาตรฐานรับรองความปลอดภัยชัดเจน
"ม่านลำแสงนิรภัยจะมีการระบุระดับ Category หรือ Type ที่ตัวม่านลำแสงอย่างชัดเจน"
ม่านลำแสงนิรภัย (Safety Light Curtain) ถูกแบ่งออกตามประเภทของระดับความอันตราย (ความเสี่ยง) ที่กำหนดไว้ในมาตรฐาน ISO13849 แบ่งเป็น 5 ระดับ ประกอบด้วย ประเภท B และประเภท 1-4
Category B : อุปกรณ์ป้องกันภัยขั้นพื้นฐานทั่วไป
Category 1 : อุปกรณ์ป้องกันภัยขั้นพื้นฐานที่มีความน่าเชื่อถือสูงกว่า B
Category 2 : อุปกรณ์นิรภัยจะมีระบบตรวจสอบการทำงานของตัวเอง จะรู้ได้ว่าตัวอุปกรณ์มีความผิดปกติเกิดขึ้นหรือไม่ โดยผู้ใช้เลือกใช้ฟังก์ชันการตรวจสอบการทำงานของอุปกรณ์
Category 3 : อุปกรณ์นิรภัยมีระบบตรวจสอบการทำงานของตัวเองโดยอัตโนมัติเฉพาะในส่วนที่สำคัญหรือส่วนที่มีโอกาสเสียได้มาก
Category 4 : อุปกรณ์นิรภัยมีระบบตรวจสอบการทำงานของตัวเองอย่างสมบูรณ์ ความบกพร่องที่เกิดขึ้นในส่วนใดๆของอุปกรณ์ ระบบจะแจ้งเตือนและจะมีระบบสำรองทำงานแทนเพื่อให้ระบบความปลอดภัยยังทำงานได้อยู่
ตัวอย่างรูปม่านแสงนิรภัยระบุมาตรฐานรับรองความปลอดภัยชัดเจน |
เทคนิคที่2 : เลือกระดับ Category หรือ Type ให้เหมาะกับงาน
แบบไหนจะเหมาะกับเรา? ง่ายๆค่ะ เราเพียงเริ่มจากการประเมินความเสี่ยงของอุบัติเหตุและความอันตรายของเครื่องจักรและลักษณะงานของเราก่อน โดยมีขั้นตอนในการวิเคราะห์ง่ายๆ ดังนี้
การประเมินความเสี่ยง ประกอบด้วย 3 ขั้นตอนพื้นฐาน คือ
-
การชี้บ่งอันตรายประมาณค่าความเสี่ยงของอันตรายแต่ละอย่าง
-
ความเป็นไปได้ และความรุนแรงของความเสียหาย
-
ตัดสินว่าความเสี่ยงใดที่ยอมรับได้
ขั้นตอนการประเมินความเสี่ยง (ISO/IEC) จะเริ่มจากความรุนแรง ของการบาดเจ็บ ความถี่ของความเสี่ยงหรือโอกาสที่จะเกิดขึ้น และความเป็นไปได้ในการหลีกเลี่ยงความเสี่ยงดังกล่าว โดยแสดงรายละเอียดของการประเมิน ดังนี้
S : ความรุนแรงของการบาดเจ็บ
-
S1 : บาดเจ็บเล็กน้อย เช่น บาดแผลฟกช้ำดำเขียว
-
S2 : รุนแรงมาก เช่น แขนขาขาดและเสียชีวิต
F : ความถี่ของความเสี่ยงต่ออันตราย
-
F1 : นานๆ ครั้ง หรือความเสี่ยงช่วงสั้นๆ
-
F2 : เกิดขึ้นบ่อยครั้ง หรือความเสี่ยงช่วงยาวๆ
P : ความเป็นไปได้ของการหลีกเลี่ยงอันตราย
-
P1 : เป็นไปได้ภายใต้เงื่อนไข
-
P2 : แทบจะเป็นไปไม่ได้
ตัวอย่างการเลือกประเภท Category/Type
- การชนกับยานพาหนะนำทางอัตโนมัติ |
- ป้อนชิ้นงานเข้าเครื่องตัดกระดาษกึ่งอัตโนมัติ |
เทคนิคที่3 : เลือกระยะห่างระหว่างบีมลำแสงและความสูงของม่านลำแสงนิรภัย ให้เหมาะกับลักษณะงาน
ม่านลำแสงที่จำหน่ายในท้องตลาดจะมีให้เลือกใช้งาน 3 แบบ คือตรวจจับนิ้ว ตรวจจับมือ ตรวจจับแขนหรือเท้า
ซึ่งจะเลือกใช้แบบใดขึ้นอยู่กับลักษณะการปฏิบัติงานว่าโอกาสที่อวัยวะที่ยื่นเข้าไปนั้นเป็นอวัยวะส่วนไหน และติดตั้งม่านลำแสงนิรภัยห่างจากเครื่องจักรมากหรือน้อย หากจำเป็นต้องติดในระยะใกล้การเลือกระยะห่างระหว่างบีมลำแสงน้อย
จะดีและปลอดภัย ส่วนความสูงของม่านลำแสงนิรภัยควรเลือกให้ไม่เกิดช่องว่างที่จะให้อวัยวะรอดผ่านเข้าไปในเครื่องจักรได้
ตัวอย่างการติดตั้งม่านลำแสงนิรภัยที่เหมาะสม
แต่หากคุณไม่แน่ใจในการเลือกใช้ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่แผนกผู้เชี่ยวชาญผลิตภัณฑ์ PEWSUNXโทร 086-340-4279, 086-448-85651 หรือ [email protected]บริษัท แสงชัยมิเตอร์ จำกัด ยินดีให้บริการค่ะ |